ประเด็นความรู้
การเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของหน่วยงายฝ่ายสนับสนุน
ประเด็นความรู้
การใช้ประโยชน์ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในการให้บริการของฝ่ายสนับสนุน
ประเด็นความรู้
การเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของหน่วยงายฝ่ายสนับสนุน
ประเด็นความรู้
การใช้ประโยชน์ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในการให้บริการของฝ่ายสนับสนุน
ปีการศึกษา 2559 ได้ดำเนินการจัดการความรู้ จำนวน 3 เรื่อง ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 การจัดเก็บหนังสือภายในห้องสมุดด้วยรหัสสี
เรื่องที่ 2 การเก็บและจัดชั้นวารสารตามศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย TCI
เรื่องที่ 3 “การเย็บรวมเล่มวารสารวิชาการ (วารสารฉบับย้อนหลัง)ที่ออกให้บริการ”
แบบรายงานผลการดำเนินงาน เรื่อง การจัดการความรู้ KM ประจำปีการศึกษา 2559
ระหว่างเดือน สิงหาคม 2559 – พฤษภาคม 2560
หน่วยงาน สำนักวิทยบริการ
สังกัดฝ่ายวิชาการ
ประเด็นความรู้
(เรื่อง) |
เป้าหมายของการจัดการความรู้ | มีการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
(ระบุจำนวนครั้งที่ ≥10ครั้ง) |
ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากdการนำ KM มาปรับใช้กับการปฏิบัติงาน |
1.การจัดเก็บหนังสือภายในห้องสมุดด้วยรหัสสี
2.การเก็บและจัดชั้นวารสารตามศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย TCI 3.การเย็บรวมเล่มวารสารวิชาการ(วารสารฉบับย้อนหลัง) ที่ออกให้บริการ |
1.เพื่อพัฒนาฐานความรู้ สนับสนุนการดำเนินงานตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัยและส่วนงานในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ผลิตบัณฑิตที่พึงประสงค์
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 เพิ่มขีดความสามารถในการวิจัยและพัฒนา 2.เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่สามารถนำมาในงานพัฒนาการเรียนการสอน การวิจัย และการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ |
-มีการประชุมคณะกรรมการจัดการความรู้ ปีการศึกษา 2559 ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2559 เพื่อร่วมกันพิจารณาดำเนินการ1.ประชุมการจัดทำแผนการจัดการความรู้ ประจำปีการศึกษา 2559
2.ร่วมกันกำหนดแนวทางการจัดการความรู้ หัวข้อ/ประเด็นความรู้ และเป้าหมายของการจัดการความรู้ 3.จัดทำแผนการจัดการความรู้ของห้องสมุด ปีการศึกษา 2559 ที่สอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยและส่วนงานห้องสมุดโดยการเน้นด้านการผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริหารจัดการ 4.มีการกำหนดการจัดโครงการที่สอดคล้องกับแผนการจัดการความรู้ใน 3 ฐาน ดังนี้ 1) ด้านการจัดการเรียนการสอน 2) ด้านการวิจัย 3) ด้านการบริหารจัดการ ส่วนงานสรุปการจัดการทั้ง 3 โครงการและสามารถดำเนินการได้ตามพันธกิจของส่วนงาน ซึ่งประกอบด้วย (1) ด้านการจัดการเรียนการสอน (2) ด้านการวิจัย และ (3) ด้านการบริหารจัดการ และมีการดำเนินการครบถ้วนตามแผนการจัดการความรู้ (ตามเอกสารแนบ) |
1.ด้านการจัดการเรียนการสอน โดยมีการถอดบทเรียนจากผู้นำเสนอวิธีการจัดเก็บหนังสือภายในห้องสมุดปรับใหม่โดยใช้รหัสสี โดยมีการจัดส่งให้กับคณะทำงานเป็นแนวปฏิบัติที่ดี
2.ด้านการวิจัย ได้มีการสรุปประเด็นแนวปฏิบัติในการบริหารจัดการความรู้ในเรื่องการเก็บและจัดชั้นวารสารตามศูนย์ดัชนีการอ้าวอิงวารสารไทย TCI เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปบริหารจัดการเพื่อนำไปสู่การให้บริการที่มีคุณภาพ 3.ด้านการบริหารจัดการ ได้มีการสรุปประเด็น การใช้งานวารสารวิชาการ ควรมีการจัดเก็บที่ถาวรด้วยการเย็บรวมเล่มตามวิธีการจัดเก็บที่คงทนถาวรและใช้งานได้สะดวก |
เอกสารแนบท้ายแบบรายงาน
การแบ่งปันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
กิจกรรมการจัดการความรู้
ลำดับ | กิจกรรมการจัดการความรู้ | ระยะเวลา |
1. | การบ่งชี้ความรู้ | |
1.1 แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการความรู้ (KM) | สิงหาคม 2559 | |
1.2 ประชุมระดมความคิดเห็นของคณะกรรมการบริหารจัดการความรู้ของสำนักวิทยบริการ ครอบคลุมประเด็นยุทธศาสตร์พัฒนาองค์กร สู่ระบบบริหารจัดการที่ดี | ||
2. | การสร้างและแสวงหาความรู้
2.1 ค้นคว้าและศึกษาความรู้เพิ่มเติมจาก เวทีแลกเปลี่ยนความรู้ การเล่าประสบการณ์ และกิจกรรมต่าง ๆ |
ตุลาคม 2559 |
3. | การจัดการความรู้ให้เป็นระบบ
3.1 กำหนดหมวดหมู่ให้องค์ความรู้ที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นองค์ความรู้ในเรื่อง 1) การจัดเก็บหนังสือภายในห้องสมุดด้วยรหัสสี 2) การเก็บและจัดชั้นวารสารตามศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย TCI 3) การเย็บรวมเล่มวารสารวิชาการ(วารสารฉบับย้อนหลัง) ที่ออกให้บริการ |
พฤศจิกายน 2559-กุมภาพันธ์ 2560 |
4. | การประมวลและกลั่นกรองความรู้ | |
4.1 ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการความรู้ | ประชุมและติดตามผลเดือนละ 1 ครั้ง | |
5. | การเข้าถึงความรู้ | |
5.1 ประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ผ่านเว็บไซต์
-บล๊อกการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัย |
พฤศจิกายน 2559-กุมภาพันธ์ 2560 | |
6. | การแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความรู้ | |
6.1 จัดประชุม/อบรมการจัดการความรู้ให้กับบุคลากรภายในสำนักฯ | ธันวาคม 2559 , เมษายน 2560 | |
6.2 จัดประชุม/ติดตามผลการจัดดำเนินการ | ||
6.3 จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | ||
7. | การเรียนรู้ | |
7.1 วิเคราะห์ความรู้จากแนวปฏิบัติที่ดีจากแหล่งต่าง ๆ เช่น นวัตกรรมที่ได้จากการจัดการความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ สำนักวิทยบริการ นำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงาน | สิงหาคม 2559- พฤษภาคม 2560 | |
7.2 ขยายผลการปรับใช้ไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ประเด็นความรู้และเป้าหมายของการจัดการความรู้ที่สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ | ||
7.3 สรุปผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นตามเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้ในประเด็นยุทธศาสตร์หรือกลยุทธ์ของหน่วยงาน |
เป้าหมายของการจัดการความรู้ : เนื่องจากห้องสมุดมีวารสารวิชาการจำนวน 406 ชื่อเรื่องออกให้บริการ ซึ่งมีปริมาณค่อนข้างมาก ดำเนินการจัดเก็บโดยจำแนกตามวารสารด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโยลี วารสารด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และวารสารทั่วไป โดยในแต่ละกลุ่มจำแนกตามวารสารที่เข้าสู่ฐานข้อมูล TCI (ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย: Thai-Journal Citation Index Centre) เป็น TCI กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3สามารถตรวจสอบรายชื่อวารสารที่ผ่านการประเมินแต่ละกลุ่มที่เว็บไซต์ http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/Evaluation/2558/Announced/News.html
ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากการนำ KM มาปรับใช้กับการปฏิบัติงาน : เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้แนวปฏิบัติงานที่ดีการจัดเก็บวารสารภายในห้องสมุดด้วยการแบ่งกลุ่มวารสารรายด้าน การแบ่งกลุ่มวารสารจำแนกตามฐานข้อมูล TCI (ศูนย์การอ้างอิงวารสารไทย) การจัดเรียงวารสารฉบับปัจจุบันที่ออกให้บริการในห้องสมุด ตลอดจนผู้รับบริการสามารถค้นวารสารที่มีคุณภาพมาตรฐานวารสารวิชาการของไทย TCI
ความเป็นมา
วารสารวิชาการของประเทศไทยส่วนใหญ่ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลทั้งในด้านการบริหารจัดการ ลักษณะรูปเล่ม และการนำไปใช้อ้างอิง แม้กระทั่งวารสารบางรายการที่ถูกอ้างอิงมากในวารสารนานาชาติ ยังคงถูกอ้างอิงน้อยในกลุ่มวารสารไทย เช่น Southeast Asian J Trop Med & Public Health เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่า วารสารไทยมีค่าดัชนีผลกระทบการอ้างอิงค่อนข้างต่ำ และมีวารสารเพียง 15 ชื่อเรื่องที่มีค่า Journal Impact Factors อย่างต่อเนื่อง โดยการสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จึงได้ดำเนินการจัดประชุมเพื่อสร้างเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพวารสารวิชาการ ครั้งที่ 3 ขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2551 ณ ห้องบอลรูม เอ โรงแรมมารวย การ์เด้นท์ กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรายงานสภาพของวารสารไทยในปัจจุบันและสร้างความตระหนักต่อความสำคัญของคุณภาพวารสารที่มีต่อการพัฒนาด้านวิชาการของประเทศ รวมทั้งเพื่อเป็นเวทีให้บรรณาธิการวารสาร และผู้เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนการดำเนินการ
1.ดาวน์โหลดรายชื่อวารสารไทยตามกลุ่มการจัดลำดับของ TCI http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/Evaluation/2558/Announced/News.html
นำมาจัดเก็บและแยกกลุ่ม แยกสาขาวิชา
2.ตรวจสอบรายชื่อวารสารที่มีในห้องสมุดและรหัสการจัดเก็บ ว่าวารสารที่มีให้บริการอยู่ในกลุ่ม TCI กลุ่มไหน
3.ลงทะเบียนวารสารที่มีให้บริการในห้องสมุด พร้อมให้รหัสการจัดเก็บวารสารและกลุ่มวารสารตาม TCI
4.นำวารสารขึ้นชั้นออกให้บริการ
เป้าหมายของการจัดการความรู้ : เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงขั้นตอนการจัดเก็บหนังสือภายในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ด้วยรหัสสีก่อนออกให้บริการ จัดทำตารางรหัสสี ขั้นตอนการปฏิบัติ ง่ายต่อการจัดเก็บ และจัดเรียงหนังสือขึ้นบนชั้น
ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากการนำ KM มาปรับใช้กับการปฏิบัติงาน : เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้แนวปฏิบัติงานที่ดีการจัดเก็บหนังสือภายในห้องสมุดด้วยรหัสสี ตารางรหัสสี ทำให้ลดข้อผิดพลาดการจัดเก็บ การค้นหาตัวเล่ม และการจัดเรียงหนังสือที่ให้บริการ
ความเป็นมา
การจัดหมวดหมู่หนังสือสำหรับห้องสมุด นอกจากการจัดหมู่หนังสือระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน (LC: Library of Congress Classification) โดยแบ่งเป็น 20 หมวดใหญ่ใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ A-Z ยกเว้น IQWXY ผสมกับตัวเลขอารบิค ตั้งแต่เลข 1-9999 และอาจเพิ่มจุดทศนิยมกับตัวเลข 20 หมวด ได้แก่ A= ความรู้ทั่วไป (General Works) B = ปรัชญา จิตวิทยา ศาสนา (Philosophy Psychology, Religion) C = ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ (Auxiliary Sciences of History) D = ประวัติศาสตร์ทั่วไป และประวัติศาสตร์โลกเก่า (History : General and Old World) E-F = ประวัติศาสตร์ : อเมริกา (History : America) G = ภูมิศาสตร์ โบราณคดี นันทนาการ (Geography, Antropology, Recreation) H = สังคมศาสตร์ (Social Sciences) J= รัฐศาสตร์ (Political Science) K = กฎหมาย (Law) L = การศึกษา (Education) M = ดนตรี (Music and Books on Music) N = ศิลปกรรม (Fine Arts)
P = ภาษาและวรรณคดี (Philology and Literatures) Q = วิทยาศาสตร์ (Science) R = แพทยศาสตร์ (Medicine) S = เกษตรศาสตร์ (Agriculture) T = เทคโนโลยี (Technology)
U = ยุทธศาสตร์ (Military Science) V = นาวิกศาสตร์ (Naval Science) Z = บรรณานุกรม และบรรณารักษศาสตร์ (Bibliography, Library Science) รวมถึง Juv หนังสือนวนิยาย รส. เรื่องสั้น งานวิจัย และวิทยานิพนธ์ ซึ่งใช้เลขเรียกตามที่ห้องสมุดกำหนด เมื่อวิเคราะห์เลขหมู่และจัดไว้เป็นหมวดต่างๆแล้ว เราก็จะไปสู่ขั้นตอนของการติดแถบสีเลย เพื่อกำหนดที่อยู่ให้หนังสือหมวดหมู่เดียวได้อยู่ด้วยกัน และสามารถให้นักศึกษา หรือผู้รับบริการ หาได้ง่ายและง่ายต่อการจัดเก็บ
ตัวอย่างตารางสีหมวดหมู่หนังสือของห้องสมุดมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา
วิธีการพิมพ์รหัสหมวดหมู่ด้วยรหัสสี
1.จัดพิมพ์หมวดหมู่ด้วยโปรแกรม Microsoft Excel ตั้งค่าระยะความกว้างและสูงให้พอเหมาะกับสติ๊กเกอร์ในแต่ละดวงให้ตรง
2.นำหนังสือที่ผ่านการวิเคราะห์หมวดหมู่เรียบร้อยมาพิมพ์สติกเกอร์ติดสันหนังสือแยกประเภทหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการกำหนดสีหมวดหมู่
3.นำตารางสีหมวดหมู่มาพิมพ์สติกเกอร์ติดแถบหนังสือ (เลขเรียกหนังสือ Call No.)
วิธีติดแถบสี
1.ใช้เครื่องวัดทาบที่มุมล่างด้านซ้ายของหนังสือ ใช้ดินสอขีดทำรอยเบาๆ
2.ติดแถบสีใต้เส้นที่ทำรอยขีดไว้ ให้ติดแถบสีโดยกะระยะพาดจากปกหน้าอ้อมไปถึงปกหนังในระยะที่เท่าๆกัน เพื่อความสวยงาม(ส่วนด้านบนเส้นเพื่อไว้สำหรับการทำแบบครบขั้นตอนในภายหลังเพิ่มเติมได้)
เป้าหมายของการจัดการความรู้ : เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงขั้นตอนการจัดเก็บวารสารวิชาการฉบับย้อนหลังที่ออกให้บริการภายในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ระบบการจัดเก็บ การค้นหา และจัดเรียงวารสารย้อนหลังเพื่อการออกให้บริการ
ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากการนำ KM มาปรับใช้กับการปฏิบัติงาน : เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้แนวปฏิบัติงานที่ดีในการกระบวนและวิธีการเย็บรวมเล่ม ค้นหารายชื่อวารสารฉบับย้อนหลังที่มีให้บริการด้วยโปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ทำให้ทราบปริมาณวารสารวิชาการฉบับย้อนหลังในการออกให้บริการ
ขั้นตอนการดำเนินงาน
วารสารที่ให้บริการในห้องสมุด เมื่อมีจำนวนมากขึ้น ห้องสมุดจะมีวิธีการบริหารจัดการด้วยการเย็บเล่มวารสารเหล่านี้ และนำแยกออกมาให้บริการเป็นวารสารฉบับเย็บเล่ม หรือวารสารล่วงเวลา โดยแยกออกจากชั้นวารสารฉบับปัจจุบัน โดยมีขั้นตอนคือ นำวารสารฉบับปลีกที่มีเนื้อหาทางวิชาการและเป็นชื่อที่เคยเย็บเล่มแล้ว นำมาเย็บเอง (ไม่ได้ส่งโรงพิมพ์แต่ทำการเย็บรวมเล่มเอง เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ อีกทั้งป้องกันการสูญหายเนื่องจากวารสารบางชื่อมีขนาดบางมาก) โดยวิธีการเย็บเล่ม ดังนี้
ขั้นตอนการเย็บรวมเล่มวารสารวิชาการฉบับย้อนหลัง
1.รวบรวมวารสารที่มีรายชื่อที่เคยเย็บเล่มแล้ว มีผู้ใช้มาก
2.เรียงตามรายชื่อ ปีที่ ฉบับที่ พ.ศ. ความหนาไม่เกิน 3 ซม.
3.เขียนรายการวารสารแต่ละเล่ม เช่น ชื่อวารสาร ปีที่ ฉบับที่ เพื่อเตรียมพิมพ์ติดข้างสันตัวเล่ม
4.นำตัวเล่มวารสารมาเจาะรู 3 รู ตรงกลาง ซ้าย ขวา แล้วเย็บด้วยด้ายให้เป็นเล่มเดี่ยวกัน
5.กำหนดสีที่สันของวารสารแต่ละชื่อเพื่อความแตกต่าง
6.นำตัวเล่มขึ้นชั้นบริการ
7.จัดทำบัญชีรายชื่อวารสารและรหัสการจัดเก็บติดที่บนชั้นวางวารสารฉบับย้อนหลัง
แนวการปฏิบัติที่ดีด้านการวิจัย เรื่อง การเขียนงานวิจัยประเภทการวิจัยประยุกต์ที่มีคุณภาพ
สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา
1) งานวิจัยคืออะไร เป็นเอกสารวิชาการที่ผู้วิจัยนาเสนอประเด็นที่มีความสำคัญ เป็นประโยชน์โดยมีระเบียบวิธีการศึกษาที่เป็นระบบ น่าเชื่อถือ เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ หรือนาไปแก้ไขปัญหา หรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
2) ประเภทงานวิจัยดูจากประโยชน์งานวิจัย งานวิจัยแบบพื้นฐาน (basic research)หรืองานวิจัยบริสุทธิ์ (pure research) ประยุกต์ (applied research)
3) ที่มาของงานเขียนวิจัยเชิงประยุกต์ที่มีคุณภาพ งานวิจัยต้องมีคุณภาพ – มีความสำคัญ เป็นประโยชน์ – มีโจทย์วิจัยชัดเจน – มีกรอบความคิด (conceptual framework) ที่ชัดเจน เหมาะสม – มีระเบียบวิธีการศึกษาที่เหมาะสม น่าเชื่อถือ – ผู้วิจัยหรือคณะวิจัยมีความรู้ ความสามารถเพียงพอ – มีการเก็บ รวบรวมข้อมูลที่น่าเชื่อถือ – มีการวิเคราะห์ตามกรอบแนวคิด – มีข้อค้นพบที่ตอบโจทย์ได้ชัดเจน เป็นรูปธรรม นาไปปฏิบัติได้ ผู้วิจัยหรือคณะวิจัยมีต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องที่ศึกษามาก่อน และมีความสามารถในการวิจัย มีการเขียนงานวิจัยตามโครงมาตรฐานงานวิจัยที่ถูกต้อง
4) การเขียนงานวิจัยตามโครงมาตรฐานงานวิจัย
1) บทนำ – ความเป็นมาและความสำคัญของเรื่อง -โจทย์วิจัย -วัตถุประสงค์ -ขอบเขตการศึกษา -กรอบแนวคิดการศึกษา -ข้อจากัด -ระยะเวลาการศึกษา -ประโยชน์ที่คาดจะได้รับ
2) บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
3) บทที่ 3 ระเบียบวิธีการศึกษา -กลุ่มตัวอย่างและวิธีการสุ่มตัวอย่าง -เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย – การรวบรวมข้อมูล – การวิเคราะห์ข้อมูล – สถิติที่ใช้ในการวิจัย (กรณีวิจัยเชิงปริมาณ)
4) บทที่ 4 บทวิเคราะห์ ตอบโจทย์และวัตถุประสงค์ของการศึกษาให้ครบถ้วนโดยนาเสนอในแต่ละประเด็นให้ชัดเจน มีการวิเคราะห์และข้อมูลสนับสนุน
5) บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ – สรุปโจทย์ วัตถุประสงค์ ระเบียบวิธีการศึกษา และผลการวิเคราะห์ – นาข้อค้นพบในบทที่ 4 มาอภิปรายโดยเทียบกับแนวคิด ทฤษฎีหรืองานวิจัยที่สำรวจในบทที่ 2 -จัดทำข้อเสนอแนะบนพื้นฐานการวิเคราะห์ในบทที่ ๔ โดยอาจแยกเป็นข้อเสนอแนะเชิง นโยบาย และข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติว่าจะนาไปปฏิบัติอย่างไร และหน่วยงานใดควรนาไปดาเนินการ – ข้อเสนอแนะในการศึกษาต่อไป เป็นการเสนอประเด็นที่เกี่ยวเนื่องจากการศึกษาครั้งนี้ เพื่อให้มีการศึกษาในโอกาสต่อไป 3
5) ข้อควรคำนึงในการเขียนงานวิจัยเชิงประยุกต์ -เขียนงานวิจัยโดยไม่มีอคติ ไม่มีธงในการวิจัยมาก่อน -เขียนงานวิจัยบนพื้นฐานข้อมูลที่มีอยู่จากการเก็บ รวบรวม และวิเคราะห์เท่านั้น -นาเสนอสาระสำคัญของคาตอบโจทย์วิจัย/วัตถุประสงค์วิจัย -เขียนงานวิจัยให้กระชับ ตรงไปตรงมา ไม่ใช้สานวนหรือถ้อยคาหรือบัญญัติศัพท์ใหม่ที่ยาก แก่การเข้าใจเพื่อแสดงภูมิปัญญาผู้วิจัยมากเกินไป -ไม่เขียนข้อเสนอแนะเกินไปจากข้อมูลที่วิเคราะห์หรือข้อค้นพบ -เขียนข้อเสนอแนะให้ชัดเจน เป็นรูปธรรมและสามารถนาไปปฏิบัติได้จริง